ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ที่นี่
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงการคลัง จะมีการทบทวนสิทธิผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน และจะมีการเริ่มเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากต้องเลื่อนการพิจารณามาเรื่อยๆ เนื่องจาก ติดสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยในรอบนี้รัฐจะทบทวนสิทธิสำหรับรายเดิมและเปิดรับรายใหม่ โดยจะนำรายได้ครอบครัวมาเป็นเกณฑ์การพิจารณาแทนรายได้ส่วนบุคคลซึ่งหากสถานการณ์ระบาดดีขึ้นเมื่อไหร่ คาดว่าทางกระทรวงการคลังจะกลับมาเปิดรับสมัครรอบใหม่เร็วๆนี้
เงื่อนไขการสมัครบัตรคนจน
ผู้สมัครต้องเป็น คนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ผู้สมัครที่ว่างงาน หรือมีรายได้ส่วนบุคคลต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
ผู้สมัครต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้
ผู้สมัครถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังข้างต้น จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาทเท่านั้น
ผู้สมัครต้องนำรายได้ต่อครัวเรือน นำมาประกอบการพิจารณาด้วย
ผู้สมัครใดมีรถยนต์ จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ หากมีรถยนต์มากถึง 2-3 คัน ถือว่าไม่สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ผู้สมัครที่มีหรือถือบัตรเครดิตอยู่ในมือ จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ เพราะตามปกติคนที่มีบัตรเครดิตตามเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่า มีรายได้ต่อ
ปีเกินกว่า 100,000 บาทต่อปี
เพิ่มเติมจากการที่ทางกระทรวงการคลังออกมาระบุว่า จะมีการปรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนบัตรฯ ใหม่ เพิ่มเติมคือ จะพิจารณาจากรายได้รวมทั้งครอบครัว หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งต้องไม่เกิน 100,000
บาทต่อปี โดยเกณฑ์การพิจารณารูปแบบใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันผู้ที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่มีฐานะทางบ้านและครอบครัวดีเนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากลูกหลาน หรือบุคคล
อื่นๆในครอบครัว เพื่อที่จะได้ทราบว่าใครจนจริง ใครจนไม่จริง สำหรับผู้ถือบัตรฯ อยู่แล้ว จะได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากบัตรฯ อย่างต่อเนื่อง เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค, ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่า
ก๊าชหุงต้ม โดยกระทรวงการคลังได้ของบประมาณในปีงบประมาณ 2564 ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ต้องกังวลว่า จะไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว

เอกสารสำหรับลงทะเบียนสมัครบัตรคนจนรอบใหม่
บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียนแบบ Smart Card
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ลงทะเบียน
สำเนาบัตรประชาชนผู้รับอุปการะ(ถ้ามี)
ใบมอบอำนาจกรณีที่ตัวเองมาไม่ได้
บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ (ถ้ามี)
สำเนาเอกสารการลงทะเบียนว่าเป็นเกษตรกร (ถ้ามี)
ใบรับรองแพทย์
สำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ดูแล (กรณีผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้)
ท่านที่ถือบัตรคนจนท่านจะได้รับเงิน สนับสนุนจากรัฐบาล ในส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปโภคบริโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ต่อคน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.ได้รับเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน อันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)
2.ได้รับเงินค่าค่าเดินทาง โดยรถโดยสารสาธารณะอันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แบ่งเป็น
ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน (รถไฟฟ้านี่ก็คือของ รฟม.และ BTS ได้หมด)
ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)
3.ได้รับเงินค่าค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาในช่วงกลางเดือนของเดือนนั้นๆ
4.ได้รับเงินค่าค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาในช่วงกลางเดือนของเดือนนั้นๆ
5.ผู้สูงอายุที่มีบัตรคนจน ได้รับเงิน 50-100 บาท ตามเกณฑ์รายได้ เงินเข้า 15 ส.ค.63 ส่วนเกณฑ์ก็คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท, ผู้สูงอายุ รายได้ 30,001-100,000 บาท ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท
6.เงินพิเศษเพิ่ม 500 บาท สำหรับซื้อของสินค้าอุปโภค-บริโภค (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) โดยรัฐบาลจะจ่ายให้แก่ท่านที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน โดยจะโอนให้แก่ผู้มีสิทธิ์ ประมาณ 14 ล้านคน โดยจะโอนให้เดือนละ 500 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน รับรวม 1,500 บาท โดน 1 ใบมี 1 สิทธิ์ รับเงินหากไม่ใช้หรือใช้ไม่หมดในเดือนนั้นจะสมทบไม่ได้และผู้ที่รับเงิน พิเศษเพิ่ม 500 บาท นี้จะไม่สามารถใช้ร่วมกับ มาตรการคนละครึ่ง ที่จะตามมาในอนาคตได้ โดยเงินนี้ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยใช้รูดซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ต้องใช้บัตรเท่านั้น
วิธีคิด คำนวน รายได้สำหรับผู้ถือบัตรคนจน
ตัวอย่างที่ 1 ครอบครัว A มีสมาชิกในครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้เป็นพ่อสามารถหารายได้ 400,000 บาทต่อปี ส่วนคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่มีรายได้
วิธีคิด คือ รายได้พ่อ 400,000 บาท หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน = 100,000 บาท
ย่อมเท่ากับว่า ครอบครัว A มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ยกตัวอย่างที่2 ครอบครัว B มีสมาชิกในครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้เป็นพ่อสามารถหารายได้ 200,000 บาทต่อปี, ลูกชาย สามารถหารายได้ 300,000 บาทต่อปี
วิธีคิด คือ รายได้พ่อและลูกชาย 500,000 บาท หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน = 125,000 บาท ย่อมเท่ากับว่า ครอบครัว B ไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุด้วยว่า เกณฑ์การพิจารณาในรูปแบบใหม่นั้น ทำเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่กลับมีฐานะดี เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากลูกหลาน หรือบุคคลอื่นในครอบครัวบุคคล
ในช่วงภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19แบบนี้ MoneyGuru ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและเป็นกำลังใจให้เราผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ส่วนใครที่มองหาตัวช่วยเงินกู้สำหรับใช้ในการจับจ่ายใช้สอยที่ง่าย สะดวก และทำได้ที่บ้าน เรายังมีตัวช่วยสำหรับการ เปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล หรือจะเป็นบัตรเครดิตอื่นๆ ให้เลือกใช้ เข้ามาเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้ทุกวันที่ MoneyGuru นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ทางช่องทาง LINE @MoneyGuruThailand รับรองว่าคุณจะได้คำแนะนำราคาเบี้ยประกันที่ดีที่สุดจากเรา